ภาวะโลหิตจางเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยที่พบบ่อยที่สุดคือโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งร่างกายเราจะได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเป็นหลัก โดยอาหารที่พบธาตุเหล็กมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ นอกจากนี้ ยังพบธาตุเหล็กได้ในผักใบเขียวและธัญพืช แต่ธาตุเหล็กในอาหารประเภทหลังนี้จะถูกดูดซึมได้ไม่ดีเท่าธาตุเหล็กจากอาหารพวกเนื้อสัตว์และอาจมีสารยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กได้ด้วย
สาเหตุที่เราขาดธาตุเหล็ก
- รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กน้อยพบได้บ่อยในเด็กทารกที่รับประทานแต่นมเพียงอย่างเดียว เนื่องจากในนมมีปริมาณธาตุเหล็กเพียงเล็กน้อยในผู้ใหญ่ การขาดธาตุเหล็กจากการรับประทานน้อยเจอได้ไม่บ่อย
- การดูดซึมธาตุเหล็กผิดปกติเป็นสาเหตุที่พบได้ไม่บ่อยอาจเกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารลดลง เช่น ผู้ที่รับประทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารนาน ๆ หรือผู้สูงอายุ ผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดเอากระเพาะอาหารออก ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเอาลำไส้เล็กส่วนต้นออก ผู้ที่มีการอักเสบของลำไส้เล็กส่วนต้นเรื้อรัง เป็นต้น
3. ความต้องการธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้น พบได้บ่อยในผู้ที่ตั้งครรภ์อยู่ หรือมีการให้นมบุตร - สูญเสียธาตุเหล็กมากกว่าปกติมักเกิดจากการเสียเลือดเรื้อรังสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ เลือดประจำเดือนออกมากและนานกว่าปกติในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
สัญญาณเตือนว่าร่างกายขาดธาตุเหล็ก นั้นมีอะไรบ้าง
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลียมากถือเป็นอาการที่พบบ่อยมากที่สุดอย่างหนึ่งของภาวการณ์ขาดธาตุเหล็ก เป็นภาวะที่ร่างกายรับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงส่งผลต่อระดับพลังงานของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด คนที่ขาดธาตุเหล็กในเลือด จะรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนแอ อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ ฉะนั้น ต้องเติมธาตุเหล็กเข้าไปช่วย พร้อมทั้งเพิ่มการพักผ่อนในเพียงพอ
- อาการตัวซีด อาจมีสาเหตุจากเม็ดเลือดแดงมีขนาดเม็ดเล็กลงและน้อยลงด้วย และมีระดับปริมาณฮีโมโกลบินน้อยลง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักจากการที่ร่างกายขาดธาตุเหล็ก ฮีโมโกลบิน มีส่วนทำให้สีผิวมีความเป็นปกติตามสภาพผิวแต่ละคน แต่เมื่อร่างกายมีธาตุเหล็กต่ำ ผิวหนังก็จะซีดลงตามไปด้วย ดังนั้น เน้นทานเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ พวกหมู วัว ไก่ ปลา เพื่อเพิ่มปริมาณธาตุเหล็กในร่างกาย
- ผิวแห้งกร้านอันนี้เป็นสัญญาณเตือน โดยหากมีอาการคันบริเวณผิวหนัง หรือ ผิวลอกเป็นขุย ๆ แปลว่าร่างกายกำลังขาดการบำรุงเลือด เน้นรับประทานผลไม้ เช่น แก้วมังกร ทับทิม สตรอเบอรี่
- ภูมิต้านทานต่ำ จะทำให้เราเป็นหวัดง่ายมาก อากาศเปลี่ยนนิดหน่อย ก็เป็นหวัดกันแล้ว และธาตุเหล็ก มีส่วนสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็ก จึงทำให้มีภูมิคุ้มกันต่ำส่งผลให้ร่างกายได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
- ผมร่วงอาจเป็นสัญญาณของการขาดธาตุเหล็กได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นโรคโลหิตจาง เลือดจางผมร่วงสามารถทำให้ผมร่วงบ่อย ด้วยสาเหตุจากเมื่อรูขุมขนไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ เส้นผมจะหลุดร่วง และจะไม่มีผมงอกขึ้นมาใหม่ จนกว่าได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพอ
ปริมาณธาตุเหล็กที่ร่างกายต้องการ
ร่างกายของคนเราได้รับธาตุเหล็ก จากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริม ซึ่งปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวันขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และปัจจัยด้านสุขภาพของแต่ละคนดังนี้
เด็ก
- แรกเกิด-อายุ 5 เดือน ควรได้รับธาตุเหล็กจากน้ำนมแม่เป็นหลัก
- อายุ 6-11 เดือน ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 9 มิลลิกรัมต่อวัน
- อายุ 1-8 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 5-8 มิลลิกรัมต่อวัน
ผู้หญิง
- อายุ 9-12 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 19 มิลลิกรัมต่อวัน
- อายุ 13-50 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 24-28 มิลลิกรัมต่อวัน
- อายุ 51 ปีขึ้นไป ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 9 มิลลิกรัมต่อวัน
- หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับธาตุเหล็กเสริม 60 มิลลิกรัมต่อวัน
- คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรได้รับธาตุเหล็กจากอาหารประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน
ผู้ชาย
- อายุ 9-18 ปี ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 11-16 มิลลิกรัมต่อวัน
- อายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน
การเลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงมีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากร่างกายสร้างแร่ธาตุชนิดนี้ขึ้นเองไม่ได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเป็นหลัก โดยเฉพาะธาตุเหล็กชนิดที่มาจากสัตว์ ซึ่งร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าชนิดที่มาจากพืช