รังแค คือ ขุยหรือสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะ พบบริเวณโคนผม เส้นผม รังแคเป็นปัญหาที่พบบ่อย และมีผลต่อบุคลิกภาพทำให้คนจำนวนมากขาดความมั่นใจ รังแคเกิดจากการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดของหนังศีรษะ โดยปกติแล้ววงจรชีวิตของเซลล์ผิวหนังจะมีการแบ่งตัวจากเซลล์ผิวหนังชั้นล่าง และค่อย ๆ เคลื่อนไปยังชั้นบนจนถึงชั้นบนสุดแล้วค่อย ๆ ผลัดหลุดไป เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตา รังแคอาจไม่มีอาการหรือมีอาการคันหนังศีรษะร่วมด้วย เป็นรังแคผมร่วงคัน pantip ยิ่งเกาจะทำให้สะเก็ดหลุดลอกมากขึ้น
รังแคมีอาการที่สำคัญ ได้แก่
- มีสะเก็ดสีขาวหรือเหลือง ลักษณะเป็นแผ่นแบนและบางมันวาว มักพบบริเวณหนังศีรษะ เส้นผม หรือไหล่
- มีอาการคันศีรษะ หนังศีรษะมัน แดงหรือเป็นสะเก็ด
- มักจะพบว่าเป็นมากในช่วงฤดูหนาวและอาการจะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน
สาเหตุของการเกิดรังแค
- โรคผิวหนังอักเสบ เป็นภาวะที่ทำให้ผิวหนังมัน แดง และเป็นสะเก็ด สามารถเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณในร่างกายที่มีต่อมน้ำมัน
- เชื้อรามาลาสซีเซีย ปกติเชื้อราชนิดนี้จะอาศัยอยู่ที่หนังศีรษะอยู่แล้ว แต่หากมีจำนวนมากเกินไปจะทำให้เกิดการสร้างและผลัดเซลล์ผิวหนังที่เร็วกว่าปกติ ซึ่งทำให้เกิดรังแค และปัจจัยที่ทำให้เชื้อราชนิดนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ได้แก่ อายุ ฮอร์โมนและความเครียด
- เชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นภาวะที่เชื้อราได้กระจายตัวลึกลงไปยังรูขุมขน ก่อให้เกิดอาการคันที่หนังศีรษะและอาจทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมได้
- โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดอาการคันและผิวหนังตกสะเก็ด ซึ่งคล้ายกันกับรังแคแต่จะมีความรุนแรงกว่า
- ผิวหนังอักเสบจากการแพ้เป็นอาการหรือปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับศีรษะ
- สระผมน้อยเกินไปหากไม่ได้สระผมเป็นประจำ อาจทำให้น้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วก่อตัวจนทำให้เกิดเป็นรังแคได้
- ผิวและหนังศีรษะแห้งหนังศีรษะแห้งอาจทำให้มีเกล็ดผิวหนังคล้ายรังแค แต่จะมีขนาดเล็กและมีความมันน้อยกว่า และโดยปกติจะไม่ทำให้เกิดอาการแดงหรืออักเสบ
- การขาดสารอาหารบางอย่าง การขาดซิงก์(สังกะสี) วิตามินบีและไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างเช่น โอเมก้า 3 สามารถเป็นสาเหตุของรังแค การรับประทานอาหารเค็มจัด หวานจัดหรือการดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ปัญหารังแคแย่กว่าเดิม
วิธีการรักษา และป้องกัน
- เลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น เนื่องจากน้ำอุ่นจะทำให้หนังศีรษะแห้ง และลอกเป็นขุยได้
- ใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของตัวยาที่สามารถลดจำนวนเชื้อราบนศีรษะ ซึ่งได้แก่ คีโตโคนาโซล ซิงค์ไพรีไทออน ซิลิเนียม ซัลไฟด์ หากมีสะเก็ดหนา และใช้ยาสระผมข้างต้นไม่ทุเลา ให้เปลี่ยนมาใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันดิน(Tar) จะช่วยลดสะเก็ดได้ดี
- ควรสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคเป็นประจำ แต่ไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการระคายเคืองและไม่ให้หนังศีรษะแห้งจนเกินไป
- ควรออกไปสัมผัสกับแสงแดดเล็กน้อยเป็นประจำทุกวัน เพราะจากการศึกษาพบว่าแสงแดดสามารถช่วยควบคุมการเกิดรังแคได้
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันใส่ผม ครีมแต่งผมหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ โดยเฉพาะที่ทำจากกรีเซอรีนหรือซีรีโคน (glycetine and silicone) เนื่องจากจะทำให้ผมมันมากขึ้นไปอีก
- เนื่องจากความเครียดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดรังแคหรือทำให้มีอาการที่แย่ลง และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้นควรหาทางจัดการกับความเครียดด้วยวิธีผ่อนคลายต่าง ๆ
กำจัดรังแคด้วยสูตรธรรมชาติ
- น้ำมันมะกอก การหมักผมด้วยน้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้น และช่วยรักษาปัญหารังแคได้เป็นอย่างดี
- น้ำมะนาว และ น้ำมันมะพร้าว โดยน้ำมะนาวจะช่วยกำจัดเชื้อราที่ทำให้เกิดรังแค ส่วนน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ ทำให้ปัญหาการเกิดรังแคลดลง ซึ่งให้นำ 2 อย่างนี้มาผสมลงในน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน แล้วชโลมลงบนหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ 20 – 30 นาที แล้วสระออกด้วยแชมพู
- ว่านหางจระเข้ สรรพคุณของว่านหางจระเข้จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดรังแค โดยการนำเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ ชโลมให้ทั่วศีรษะเพียงแค่นี้หนังศีรษะแห้งก็จะลดลง ซึ่งจะช่วยลดปัญหารังแคด้วย