เสริมคางได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน มีผู้ที่ได้รับปัญหาจากใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนตามที่ต้องการ ซึ่งการเสริมคาง ราคา 5000 สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ที่กำลังประสบปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม หรือคางเหลี่ยมได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนการตัดสินใจเสริมคางนั้น ควรศึกษาหาข้อมูลเพื่อเป็นรายละเอียดสำหรับการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อจะได้รับการบริการที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และเพิ่มความมั่นใจก่อนการเสริมคางได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของการเสริมคาง
- สามารถเสริมคางให้มีลักษณะที่เหมาะกับโครงหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างมั่นใจ ซึ่งก่อนการเสริมคาง แพทย์จะทำการพิจารณาจากรูปหน้าของคุณก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาชัดเจนมากที่สุด
- ทำการเสริมคาง โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความเป็นมืออาชีพเฉพาะทาง และมีประสบการณ์ในการศัลยกรรมมาอย่างยาวนาน
- ได้รับความปลอดภัยเพราะมีเครื่องมือที่สะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ ได้เป็นอย่างดี โดยเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่ได้รับมาตรฐาน
- ได้รับการดูแลหลังจากการผ่าตัด จากทีมติดตาม เพื่อให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะทำให้การพักฟื้นใช้เวลาได้น้อยลง
- ทางคลินิกได้มีโปรแกรมระงับความเจ็บปวด ในขณะที่กำลังผ่าตัด ที่ไม่ทำให้เกิดอาการของเจ็บปวดมากเกินไป และสามารถกลับบ้านได้ทันทีได้อย่างปลอดภัย
- ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาในการเตรียมตัวก่อนการเสริมคาง และวิธีการดูแลตนเองหลังเสริมคาง พร้อมติดตามอาการดูแลอย่างใกล้ชิด
เสริมคาง เหมาะกับใครบ้าง
- การเสริมคางนั้นเหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าสั้น คางถอย คางตัด คางบุ๋ม ต้องการแก้ไขปัญหาคาง ให้มีความสวยงาม ขึ้น คนที่มีใบหน้ากลมอยากปรับรูปหน้าให้ยาวขึ้น
- การเสริมคาง สามารถทำให้ใบหน้าของคุณมีมิติเพิ่มมากขึ้น ช่วยส่งเสริมให้คุณได้มีบุคลิกภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
- การเสริมคางสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ มักจะนิยมเสริมคางให้ป้านขึ้น ดูเหลี่ยมขึ้น ไม่นิยมเสริมคางแหลมเกินไป อาจจะทำให้ใบหน้าดูหวาน ซึ่งต่างจากการเสริมคางผู้หญิงที่มักจะนิยมทำให้ใบหน้าดูเรียว ยาวขึ้น หน้าดูหวานละมุน
การเสริมคางจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ
- วิธีฉีดไขมัน หรือ ใช้สารฟิลเลอร์ เข้าที่คาง วิธีแบบนี้จะไม่ถาวร เนื่องมาจาก ไขมันและสารฟิลเลอร์จะค่อยๆสลายไปเองภายใน 3 – 5 ปี
- วิธีเสริมคางด้วยซิลิโคน จะเป็นการผ่าตัดเล็กแล้วก็ใช้ซิลิโคนที่เป็นประเภทที่ใช้สำหรับในการเสริมจมูกมาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม แล้วหลังจากนั้นนำมาใส่บริเวณคาง ซึ่งการเสริมคางวิธีนี้ยังแบ่งได้เป็น 2 แบบ ดังต่อไปนี้
- การเสริมคางจากด้านในช่องปาก วิธีแบบนี้เป็นที่นิยมสูง เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในช่องปากตรงบริเวณเหงือกข้างในกับริมฝีปากด้านล่าง ให้มีความยาวประมาณ 2 ซม. (หรือแล้วแต่ขนาดซิลิโคน) แล้วต่อจากนั้นศัลยแพทย์จะผ่าแยกเยื่อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออก แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นก็เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
- การเสริมคางจากด้านนอกช่องปาก เป็นการผ่าตัดเปิดแผลรอบๆใต้คาง ยาวประมาณ 2 ซม. โดยแพทย์สามารถปรับรูปคางได้หลายองศา และสามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ถูกต้องแม่นยำ ชัดเจน รวมทั้งยังสามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้ ลดโอกาสสำหรับการบิดเบี้ยวเอียงได้ดีขึ้น
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- ผู้ที่เข้ารับบริการเสริมคางจะต้องแจ้งประวัติในการแพ้ยาให้กับทางคลินิกทราบ หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลและแจ้งแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดด้วย เพื่อให้การบริการเสริมคางของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรแปรงฟันให้สะอาด ท่านไม่จำเป็นต้องงดอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องงดยาแอสไพริน, ไอบิวโพรเฟน และวิตามินอี
- หลังทำการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ท่านจะต้องงดสูบบุหรี่
การผ่าตัดเสริมคาง
การผ่าตัดเสริมคางนั้น แพทย์จะใช้วิธีการรักษาโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่ เสริมด้วยแท่งซิลิโคน ซึ่งแผลผ่าตัดจะอยู่ด้านในปากบริเวณระหว่างซอกของริมฝีปากล่างด้านในกับเหงือก ไม่สามารถมองเห็นแผลจากภายนอก และ เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย โดยที่ไม่ต้องตัดไหมแต่อย่างใด
หลังเสริมคางมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร
- ควรงดทานอาหารรสจัด อาหารที่มีความร้อน อาหารหมักดอง และอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวเป็นอย่างมาก รวมถึงงดอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนในอาหารได้
- หลังจากการผ่าตัดในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้บาดแผลได้รับการกระทบกระเทือน เช่น การวิ่ง การกระโดด และห้ามเท้าคางเด็ดขาด
- หลังจากการผ่าตัดจะเกิดอาการบวม จึงควรใช้การประคบเย็นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง จากนั้นอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 2 สัปดาห์
- ต้องหมั่นบ้วนปากบ่อย ๆ ด้วยน้ำสะอาด น้ำเกลือ หรือน้ำยาบ้วนปาก ทุก 2-3 ชั่วโมงและทุกครั้งหลังอาหาร เพื่อทำให้ช่องปากของคุณสะอาดอยู่เสมอ
- ควรรับประทานอาหารที่สามารถเคี้ยวได้ง่าย เช่น อาหารอ่อนหรืออาหารเหลว และหลีกเลี่ยงในการขยับปากในช่วงแรก
- หลังจากการผ่าตัดในช่วงแรก ๆ เวลานอนหลับ ควรนอนหงายและหนุนหมอนให้สูงขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการบวมได้และลดการเกิดเลือดคลั่งได้
- เวลาดื่มน้ำควรใช้หลอดดูด เพื่อลดการขยับคาง และควรดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ
- ควรงดการสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันที่จะไม่ทำให้เลือดสูบฉีดในร่างกายมากจนเกินไป
- ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง พร้อมดูแลแผลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณคาง ไม่ควรยิ้มหรือหัวเราะมากจนเกินไป
- ระมัดระวังไม่ให้เกิดแรงกระแทกมากระทบซิลิโคนมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ซิลิโคนที่ยังเกาะติดแน่นกับขอบกระดูกไม่ดี ทำให้เกิดการขยับเขยื้อนได้
- หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากการศัลยกรรม หรือสงสัยว่าตัวเองมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อจะได้รับการดูแลได้อย่างทันท่วงที