คันหัวผมร่วง

คันหัว คือ อาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปกับคนจำนวนมาก ซึ่งเป็นภาวะทางผิวหนังที่สร้างความรำคาญให้แก่คนที่เป็น แต่มักจะไม่มีความรุนแรง โดยเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่สาเหตุที่พบได้ทั่วไป จนถึงสาเหตุที่มีความรุนแรงและอาจจำเป็นต้องไปพบแพทย์โรคผิวหนังเพื่อรักษาให้ตรงจุด

คันหัวเกิดจากอะไร

โรคที่เป็นสาเหตุของการคันหนังหัวที่พบได้มาก ได้แก่ รังแค โรคผิวหนังอักเสบของต่อมไขมัน โรคสะเก็ดเงิน โรคกลากและผื่นแพ้สัมผัส เป็นต้น

คันหนังหัวมากแค่ไหนถึงไปพบหมอ

  • เมื่อพบว่ามีอาการคันหัวอย่างต่อเนื่องและไม่หายไป รวมทั้งเกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่คันหัวผมร่วง เจ็บ แสบ หรือคันหัวรุนแรงมากขึ้น
  • มีอาการคันหัวที่ทำให้ต้องตื่นมาช่วงกลางคืน และมีผลเสียต่อการทำงานแล้วก็การเรียนหนังสือ
  • เมื่อสัมผัสบริเวณที่มีอาการคันแล้วรู้สึกเจ็บหรือแสบมาก ๆ
  • ใช้ยาสระผมหรือยารักษาด้วยตัวเองแล้วอาการแย่ลง
  • คันหัวเพราะว่าโรคทางผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน กลาก หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย

อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่าตัวเองมีอาการคันหัวโดยไม่ทราบสาเหตุและอาการยังคงอยู่เป็นเวลานานติดต่อกัน ควรจะไปพบหมอโรคผิวหนังเพื่อตรวจวินิจฉัยและหาทางรักษาต่อไป หมอจะตรวจดูหนังศีรษะและอาจนำตัวอย่างหนังศีรษะไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเหา แต่โดยส่วนใหญ่หมอจะวินิจฉัยได้ทันทีด้วยการตรวจดูหนังศีรษะและถามประวัติอาการของคนไข้

คันหัวผมร่วง รักษายังไง

การคันหัวมีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

อาการคันหัวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่คุณเป็นเช่น

1.รังแค (Dandruff)

เป็นสาเหตุซึ่งพบได้บ่อยที่สุด โดยทำให้เกิดอาการคันหัว สำหรับกรณีที่เป็นไม่มาก อาจใช้ยาสระผมที่มีส่วนประกอบของซีลีเนียม (Selenium) ซิงค์ไพริไทออน (Zinc Pyrithione) และทีทรีออย (Tea Tree Oil) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ช่วยควบคุมเชื้อรา หรือในกรณีที่เป็นมาก บางทีอาจจำเป็นต้องใช้ยาที่สั่งโดยหมอ ดังเช่น ยาสระผมต่อต้านเชื้อรา ยาคอร์ติโซนใช้เฉพาะที่ ยาชนิดโฟม ยาสารละลาย ยาครีมหรือขี้ผึ้ง ฯลฯ

2.เชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis)

หมอจะให้ยาต่อต้านเชื้อราชนิดรับประทาน เช่น กริซีโอฟูลวิน (Griseofulvin) และเทอร์บินาฟีน (Terbinafine) หรือยาสระผมต่อต้านเชื้อรา โดยก่อนใช้ยาดังกล่าวควรจะขอคำแนะนำจากหมอ เพราะส่วนประกอบของตัวยาอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้

3.โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

ใช้ยาสระผมยาที่มีส่วนประกอบของน้ำมันดิน (Coal Tar) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ไม่ต้องสั่งโดยหมอ เพื่อควบคุมอาการโรคสะเก็ดเงินได้ แต่ถ้าใช้แล้วไม่ได้ผล อาจมีความจำเป็นต้องพบหมอโรคผิวหนัง ซึ่งหมออาจแนะนำให้ใช้ยาสระผมที่มีฤทธิ์แรงขึ้นหรืออาจให้ใช้ยาคอร์ติโซนเฉพาะที่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

4.อาการแพ้

อาการคันหัวที่เกิดขึ้นจากการแพ้ต่อสารบางอย่าง อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกาย แก้ไขได้ด้วยการหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นในทันที รวมทั้งถ้าพบว่ามีอาการที่รุนแรง ควรจะไปพบหมอเพื่อรักษาให้ตรงจุด

วิธีการป้องกันการคันหัว

อาการคันหัวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งไม่อาจจะป้องกันได้ทั้งหมด อย่างไรก็ดีมีวิธีปกป้องและดูแลตัวเองได้ในเบื้องต้น เช่น

  • สระผมเป็นประจำแต่ไม่บ่อยจนเกินไปเพื่อลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ควรจะสระผมด้วยน้ำอุ่นไม่ควรใช้น้ำที่ร้อนจนเกินไปและไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงความระคายเคืองและป้องกันหนังศีรษะแห้งจนเกินไป
  • ไม่ควรเกาหัว และควรจะให้หนังศีรษะมีความชื้นด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นซึ่งไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน (Silicone) แล้วก็ไดเมทิโคน (Dimethicone) หรือใช้ครีมนวดผมคุณภาพดีที่ช่วยดูแลหนังศีรษะและก็เส้นผม
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเป่าผมในอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสีย้อม น้ำหอม หรือสารเคมี ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้

อาการคันหัวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและสามารถรักษาให้หายได้หากอาการคันนั้นไม่เป็นเรื้อรัง หากเป็นเรื้อรังก็ต้องรีบไปพบหมอเฉพาะทางเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง

alepma.com

By Alepma.com

แก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้าน ผมบาง แชมพูแก้ผมร่วง ปัญหาผมร่วง สิ่งที่ทำลาย ความมั่นใจ ผมร่วง ทำคีโม ผมขาดวิตามิน แก้ปัญหายังไงดี